-การฝึกอบรมและพัฒนาครู

          สถานศึกษาอาชีวศึกษาจะต้องปรับบทบาทให้สอดคล้องกับเจตนารมย์ในการจัดตั้งสถานศึกษาและจัดการเรียนการสอนตามความถนัดและสอดคล้องกับความต้องการกำลังคนในพื้นที่ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาครูและบุคลากรในสาขาวิชาเฉพาะทางให้มีทักษะและสมรรถนะที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานที่ในปัจจุบันและอนาคต ตามทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศไทย รวมทั้งการฝึกอบรมและพัฒนาครูวิชาชีพในสาขาวิชาที่มีความเป็นเลิศ ให้กับครูในสถานศึกษาเครือข่ายทั้งรัฐและเอกชน

         ดำเนินการฝึกอบรมและพัฒนาครูให้มีสมรรถนะทางวิชาชีพที่ทันสมัย สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่สถานประกอบการใช้ในปัจจุบัน ให้กับครูเครือข่ายในสาขาเดียวกัน ทั้งจากสถานศึกษา กลุ่มความเป็นเลิศ (Exellence Center) กลุ่มเชี่ยวชาญเฉพาะ (Expert) กลุ่มทั่วไป (Standard)ที่จัดการเรียนการสอนตรงกับสาขาวิชาที่มีความเป็นเลิศ ทั้งนี้การออกแบบหลักสูตรและการพัฒนาครู เป็นการดำเนินการร่วมกับสำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษาคณะอนุกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (อ.กรอ.อศ.) และสถานประกอบการ

         5.1 การออกแบบและพัฒนาหลักสูตร

             การออกแบบและพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม จะเป็นการดำเนินการร่วมกันของสถานศึกษาที่เป็นศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา สำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษา คณะอนุกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (อ.กรอ.อศ.) และสถานประกอบการ

 

             แนวทางการดำเนินงาน (Key Activity)

             ส่วนกลาง

             1. สำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการในการออกแบบหลักสูตร สำหรับพัฒนาครูด้านวิชาชีพ สาขาที่มีความเป็นเลิศ

             2. สำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษา จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อออกแบบหลักสูตรสำหรับพัฒนาครูด้านวิชาชีพ สาขาที่มีความเป็นเลิศ

             3. นำหลักสูตรไปใช้พัฒนาครูด้านวิชาชีพ สาขาที่มีความเป็นเลิศ

             สถานศึกษา

             สถานศึกษา คัดเลือกผู้แทนตามสาขาวิชาที่มีความเป็นเลิศ ทั้งจากสถานศึกษาและสถานประกอบการ เพื่อเข้าร่วมออกแบบและพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรม 

             ผู้ที่เกี่ยวข้อง (Key Partner)

             1.    สำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษา

             2.    คณะอนุกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (อ.กรอ.อศ.)

             3.    สถานประกอบการ

             4.    ฝ่ายวิชาการ/แผนกวิชา

             กลไกการขับเคลื่อน ( Key Driver)

             1.เตรียมความพร้อมและออกแบบพัฒนาหลักสูตร

             2.ประสานเครือข่าย สถานประกอบการทุกภาคส่วน ร่วมออกแบบและพัฒนาหลักสูตร

             3.นิเทศ กำกับและติดตาม

             เป้าหมายผลผลิต (Key Result)

             หลักสูตรสำหรับพัฒนาครูสาขาที่มีความเป็นเลิศแต่ละสาขา อย่างน้อย 1 หลักสูตร

 

         5.2  ฝึกอบรมครูในสาขาวิชาที่มีความเป็นเลิศ

             ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เนื่องจากไม่สามารถโอนจัดสรรงบประมาณให้สถานศึกษาได้ ดังนั้นการจัดโครงการฝึกอบรมครูในสาขาที่มีความเป็นเลิศ จึงต้องดำเนินการผ่านสำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษา โดยมีแนวทาง ดังนี้

             แนวทางการดำเนินงาน (Key Activity)

             ส่วนกลาง

             บริหารจัดการโครงการฝึกอบรม ร่วมกับสำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษา / คณะอนุกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (อ.กรอ.อศ.)        

             สถานศึกษา

             1. สถานศึกษาที่เป็นศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา เลือกหลักสูตรที่ออกแบบไว้ เพื่อใช้พัฒนาครู จำนวน 1 หลักสูตร

             2. เสนอโครงการและแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการโครงการ ผ่านสำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษา

             3. รับสมัครผู้เข้าอบรม จากครูเครือข่ายในสาขาเดียวกัน ทั้งจากสถานศึกษา กลุ่มความเป็นเลิศ (Exellence Center) กลุ่มเชี่ยวชาญเฉพาะ (Expert) กลุ่มทั่วไป (Standard) 

             4. รายงานผลการดำเนินการ

             ผู้ที่เกี่ยวข้อง (Key Partner)

             1. สำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษา

             2. คณะอนุกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (อ.กรอ.อศ.)

             3. ฝ่ายบริหารทรัพยากร/งานบุคลากร

             4. ฝ่ายวิชาการ/แผนกวิชา

             กลไกการขับเคลื่อน ( Key Driver)

             1.เตรียมความพร้อมหลักสูตรสำหรับในการฝึกอบรม

             2.ประสานสถานศึกษาในสาขาวิชาที่มีความเป็นเลิศ ทุกกลุ่ม เพื่อเข้ารับการฝึกอบรม 

             3.นิเทศ กำกับและติดตาม

             เป้าหมายผลผลิต (Key Result)

             ครูได้รับการฝึกอบรม ในสาขาที่มีความเป็นเลิศแต่ละสาขา ไม่น้อยกว่า 20 คน